รู้ไหมว่า

ซีบัคธอร์น หรือ Sea Buckthorn (ชื่อวิทยาศาสตร์ Hippophae Rhamnoides) เป็นพืชไม้พุ่มในตระกูล Elaeagnaceae ผลของมันสามารถนำมาสกัดเย็นเพื่อผลิตเป็นน้ำมันเมล็ดได้ โดยผลจากสายพันธุ์ Hippophae Rhamnoides อุดมไปด้วยวิตามินซีและอีสูง
พร้อมสารอาหารอื่นที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์อีกหลายชนิด

ซีบัคธอร์นถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ควบคุมความมันต้านการอักเสบ และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

ท่ามกลางผลิตภัณฑ์ออกใหม่ที่อ้างอิงจากข้อมูลในระบบฐานข้อมูล Mintel GNPD

เราพบว่า ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา สารสกัดจากผลไม้ hippophae rhamnoides น้ำมันจาก hippophae rhamnoides และน้ำมันจากผลไม้ hippophae rhamnoides ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประมาณ 0.4% ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยน้ำมันจากผลไม้ hippophae rhamnoides มีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 0.54% ในปี 2564

คุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยชะลอวัยมักพบบ่อยที่สุดในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซีบัคธอร์น หากวิเคราะห์อย่างละเอียดจะพบอีกว่าคุณสมบัติในการต้านริ้วรอย ลดความเหี่ยวย่นและยกกระชับผิวนั้นยังพบมากในผลิตภัณฑ์ออกใหม่ในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย

ภาพรวมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ออกใหม่จากระบบฐานข้อมูล GNPD

อายครีมจากแบรนด์ Logona ช่วยปกป้องริ้วรอยและยกกระชับผิวรอบดวงตา

มีส่วนผสมจากน้ำมันสกัดจากผลเบอร์รีออร์แกนิกของซีบัคธอร์นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง อีกทั้งช่วยป้องกันการอักเสบ คงความอ่อนเยาว์และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับชั้นผิวในเวลาเดียวกัน

แผ่นมาสก์แบรนด์ Inoherb เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากรังไหมถึง 4 เท่า

มีส่วนผสมหลักจาก dendrobium candidum ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่รู้จักกันโดยทั่วว่าช่วยลดความแห้งกร้านของผิวซีบัคธอร์นที่ช่วยซ่อมแซมและบรรเทาการอักเสบของผิวหน้า สารสกัดจากเห็ด poria cocos ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ยาวนาน ชะเอมที่ช่วยลดความหมองคล้ำและไข่มุกที่ช่วยปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสยิ่งขึ้น

เซรั่มบำรุงผิวหน้า Renaissance Rare Rose จากแบรนด์ REPO-LDN

นำเสนอสูตรการดูแลผิวฉบับหรูหรา มีคุณภาพและออร์แกนิกที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติประกอบด้วยส่วนผสมของซีบัคธอร์นที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3, 6, 9 และ 7 เพื่อมอบการบำรุงล้ำลึกสู่ชั้นผิว‘