บล็อก

อนาคตมาถึงแล้วในเดือนพฤศจิกายน

พฤศจิกายน 17th, 2020 | ข่าว Mintel |

“อนาคตไม่สามารถทำนายล่วงหน้าได้ แต่อนาคตสามารถถูกสร้างขึ้นมาได้” Dennis Gabor (“Inventing the Future”, 1963) วิศวกรไฟฟ้า นักฟิสิกส์ และผู้ได้รับรางวัลโนเบลจากการประดิษฐ์โฮโลแกรมได้กล่าวไว้

ในเมื่ออนาคตไม่สามารถคาดเดาได้ เราจะต้องสร้างให้มันขึ้นมา

หลายคนคงอยากจะพูดออกมา “สักที” กับการที่ปี 2563 จะหมดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ในขณะที่พวกเราได้หลากหลายบทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้นมากมายในปีนี้ แม้อนาคตยังคงเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่แน่นอน เพราะมันเต็มไปด้วยตัวแปรมากมายที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในด้านสังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การเมือง และแน่นอนที่สุดโรคระบาด แต่ในฐานะนักวิเคราะห์ของ Mintel พวกเรามีหน้าที่คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าจะเป็นไปในทิศทางใดและสามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างไรภายใต้การประยุกต์ความพยายามและการทดลองในแต่ละขั้นตอนของการทำสำรวจวิจัย

มองย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่รู้สึกเหมือนผ่านมานานมากแล้ว เป็นช่วงที่พวกเราได้เผยแพร่ 2030 Global Consumer Trends หากย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น พวกเราไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีการเกิดโรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลก และยังทำให้เกิดกระแส ‘next normal’ ใหม่ในหลากหลายประเทศ สังคม ชุมชน กลุ่มผู้บริโภคและแบรนด์​ต่างๆ ในส่วนของการโรคระบาด Mintel ได้อัพเดทใน 2030 Trends ของเดือนพฤษภาคมปีนี้ ภายใต้ชื่อบทความ “How COVID-19 brought the future forward” ตามชื่อของบทความ พวกเราได้แสดงให้เห็นว่าการคาดการณ์ของพวกเราจะถูกต้อง (โดยสามารถพิสูจน์ว่าขั้นตอนการวิจัยต่างๆนั้นได้ผล) สืบเนื่องจากโลกที่เปลี่ยนไปเร็วกว่าที่เรา (หรือคนใดคนคนหนึ่ง) จะคาดคิด จากการเกิดโรคระบาดที่ได้ขับเคลื่อนเทรนด์ต่างมันอยู่นอกเหนือการรับรู้และไม่อาจนำมาอยู่ในการคาดการณ์ได้

หลากหลายประเด็นในการคาดการณ์เหล่านี้อาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หลักการต่างๆก็เป็นตัวสะท้อนผ่านเทรนด์ใหญ่ต่างๆ ที่เราได้เห็น (และจะเห็นในต่อๆไป) และเป็นการคาดเดาต่อไปว่าโลกของเราจะปรับเปลี่ยนไปไหนทิศทางใดหากพิจารณาจากเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การคาดการณ์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในการตอกย้ำและเตือนในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้นในอนาคต และส่วนหนึ่งของความทะเยอทะยานในการสร้างสิ่งใหม่ให้กับโลกใบนี้ อนาคตในแบบที่พวกเราต้องการนั่นเอง

ระวังกับสิ่งที่คุณต้องการ!

เรื่องที่จะกล่าวต่อไปต่อจากบทความจากบทข้างบนคือ “มันคือความสามารถของมนุษย์ในการประดิษฐ์สร้างสังคมมนุษย์อย่างที่เป็นอยู่”

สิ่งเหล่านี้ทำให้เราต้องพิจารณาเรื่องการคิดค้นเทคโนโลยีนอกให้นอกเหนือไปกว่าเดิม อย่างไรก็ตามการคิดถึงสังคมในรูปแบบที่เราอยากสร้างและอยากอยู่นั้นเป็นตัวการในการตัดสินใจว่าอะไรจะเป็นเทคโนโลยีที่เราจำเป็นต้องสร้างและคงสิ่งเหล่านี้ไว้ จากประวัติศาสตร์ของมนุษย์มากมาย สังคมมักถูกหล่อหลอมด้วยเทคโนโลยีที่พวกเราคิดค้นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องไถ แท่นพิมพ์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ในปัจจุบันเรามักเห็นเหตุการณ์คุกคามการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในหลายด้าน ซึ่งมาจากเครื่องจักรและหุ่นยนต์ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม จำนวนประชากรที่ล้นเกิน และแน่นอนที่สุดโรคระบาด ทั้งหมดนี้ต่างก่อให้เกิดคำถามในส่วนของผลกระทบในระยะยาวมากกว่าการมุ่งเน้นไปที่ “ความก้าวหน้า” ที่รวดเร็วของมนุษย์

ภัยคุกคามที่กล่าวไว้เบื้องต้น ได้ถูกระบุไว้พร้อมกับข้อมูลเชิงสถิติมากมายในหนังสือ “ The Precipice” ของ Toby Ord ในปี 2563 ซึ่งกำลังเป็นหนังสือที่คนหลายคนให้ความสนใจมากขึ้นอีกด้วย มากไปกว่านั้นโลกเราได้มีการจับตาดูว่าการระบาดของโรคจะทำให้มนุษย์ตระหนักและให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ถูกรุกล้ำมากขึ้นและนำไปสู่การแพร่ระบาดได้อย่างไร และเหตุการณ์ล็อคดาวน์บ้านเมืองจากการแพร่กระจายของโรคระบาดจะทำให้ผู้คนรู้สึกซาบซึ้งกับโลกของธรรมชาติและความมหัศจรรย์ของมันอย่างไร แม้มันอาจจะดูเป็นสิ่งเล็กน้อยที่เปลี่ยนแปลงอารมณ์ของผู้คนและสังคม อย่างไรก็ตามมันก็เป็นหนึ่งในเมล็ดความคิดที่จะเติบโตอย่างแข็งแรง และหยั่งรากลึก แผ่กิ่งก้านแห่งความนึกคิดให้เติบโตเป็นร่มเงาให้ผู้อื่น จนทำให้ผู้คนเหล่านั้นนำมาขบคิดมากขึ้น

เข้าควบคุมการขับเคลื่อนพวงมาลัยสู่อนาคต

คนขับเคยเป็นคนควบคุมยานพาหนะ แต่ตอนนี้ Drivers หรือปัจจัยผลักดัน กลับกลายเป็นผู้ควบคุมอนาคตของพวกเขา ปัจจัยแรงผลักดันผู้บริโภคทั้ง 7 ของ Mintel ได้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าใจความต้องการว่าผู้บริโภคและด้วยเหตุผลใด ดังนั้นพวกเขาจึงช่วยแบรนด์ให้มองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าอนาคตที่ดีกว่าที่ผู้บริโภคมองหานั้นเป็นอย่างไร และเพื่อให้แบรนด์ได้เข้าใจและไล่เรียงวิสัทัศน์แบรนด์ของตนให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าปัจจุบันและผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าใหม่ในอนาคต จงเลือกรับจิตวิญญาณแห่งยุคสมัย (zeitgeist) เป็นสิ่งที่ถูกแล้ว แบรนด์จะรุ่งเรือง และนั่นแหล่ะคือคิดผิด

ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่มาถึง พวกเรากำลังสร้างสรรค์สิ่งใหม่อีกครั้ง โดยกำหนดเป้าหมายที่น้อยลงกว่าปีที่ระบุไว้ในอนาคต (ปี 2573) แต่ยังคงวางกรอบการคาดการณ์ไว้ 3 ช่วง ได้แก่ ปัจจุบัน (อีก 12 เดือนถัดไป) ในระยะถัดไป (2-4 ปีข้างหน้า) และในอนาคต (5 ปีขึ้นไป) แม้จะละเอียดอ่อนแต่ก็มีความต่างกันอย่างมาก แทนที่การกำหนดช่วงเวลาโดยไม่เปลี่ยนแปลง ปีนี้ Mintel ได้สร้างสรรค์ข้อมูลบทความที่มีชีวิตชีวาและเติบโตมากขึ้น ที่จะช่วยประยุกต์ข้อมูลให้เข้ากับสิ่งที่ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเป็นตัวเร่งหรือตัวชะลอแล้วแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมันจะช่วยให้เราปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น และยังช่วยในการดำรงต่อในของเราหรือลูกค้าในการให้ความสำคัญกับอนาคต ที่พวกเรา (ในฐานะมนุษยชาติ) ต้องการหรือไม่อย่างไร

สิ่งที่พวกเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในเดือนพฤศจิกายนนี้คือ การคาดการณ์ใหม่ๆ ที่ยังคงนำเสนอภายในระบบของพวกเรานั่นคือ ปัจจัยแรงผลักดันผู้บริโภคทั้ง 7 และหลักสนับสนุนทั้ง 4 ภายใต้แต่ละหัวข้อหลักอีกด้วย สิ่งที่ปัจจัยเหล่านี้กำลังทำอยู่ในตอนนี้คือการผนวกเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่ถูกเร่งให้เกิดเร็วขึ้นจากโรคระบาดโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งนั้นเกิดขึ้นทั้งในระบบความคิดของผู้บริโภค และการตอบสนองจากแบรนด์ต่างๆ รวมถึงความพยายามในรวยรวมสรุปภาพอนาคตที่ดีกว่าเดิม จากแรงปรารถนาของผู้บริโภคทั่วโลกไปจนถึงแบรนด์ที่จะสามารถสร้างวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของตนเองได้เป็นอีกด้วย

เพราะ Mintel คือผู้เชี่ยวชาญว่าผู้บริโภคต้องการอะไรและเพราะเหตุใด พวกเราจึงเหมาะอย่างยิ่งในการทำนายพฤติกรรมอนาคตของผู้บริโภคและอะไรที่สำคัญกับแบรนด์ต่างๆบ้าง เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราได้เฉลิมฉลองการทำนายอนาคตให้กับโลกใบนี้ และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะสานต่อตำนานความสามารถเพราะรู้ว่าก้าวต่อๆไปของทุกๆคนสำคัญเพียงใด มาดูกันเลย!